ศธ.360 องศา พาไปติดตามผลงานสิ่งประดิษฐ์ของนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่คว้าเหรียญทองจากเวทีประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ “The International Trade Fair-Ideas, Inventions and New Products” จากประเทศเยอรมนี กับผลงาน “นวัตกรรมชุดตรวจลายนิ้วมือแฝงราคาประหยัดจากเปลือกมันสำปะหลัง” นวัตกรรมนี้ เจ้าของผลงานบอกว่า เพียงแค่สงสัยว่าจะมีลายนิ้วมือของคนร้ายติดอยู่ ก็สามารถใช้ชุดตรวจลายนิ้วมือแฝง ด้วยเปลือกมันสำปะหลัง ฉีดพ่น และค้นหาหลักฐานสำคัญที่ผู้ก่อเหตุทิ้งไว้ ชนาธิป อมรธรรมสถิต นักเรียน โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี เผยว่า สมมติว่ามีลายนิ้วมือแฝงของการฆาตกรรมอยู่ หรือฆาตกรหรือโจรผู้ร้ายที่ติดอยู่ แต่เราคาดว่าพื้นผิวตรงนี้มีลายนิ้วมือแฝงเกิดขึ้น ลายนิ้วมือแฝงตรงนี้มองเห็นได้ยาก เราต้องการให้มองเห็นได้ง่ายมากขึ้น นวัตกรรมของเราจะช่วยตอบโจทย์ตรงนี้ได้ง่ายมากขึ้น นี่คือผลงานของนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี ที่ได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนแนวนักสืบ ประกอบกับการส่งเสริมจากทางโรงเรียน จนพัฒนาชุดตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ผลิตจากเปลือกมันสำปะหลัง กลายเป็น “วัสดุนาโนคาร์บอน” หรือคาร์บอนดอท (Carbon Dot) ใช้ทดแทนสารตรวจหาลายนิ้วมือแฝง แต่มีคุณสมบัติยึดเกาะกับพื้นผิววัตถุได้หลากหลาย แถมยังราคาถูกกว่า เพราะใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในประเทศไทย การเรียนการสอนแบบนี้ ทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎี ภาคปฏิบัติ การทำงานเป็นทีม การนำเสนอผลงานให้กับผู้ชมทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแนวคิดต่อยอดสู่ธุรกิจหรือการผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค กมลวิช กาญจนทวีลาภ นักเรียน โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี เผยว่า ผมคิดว่าผลงานนี้จะนำไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ ไม่ก็นำตัวคาร์บอนดอทไปพัฒนาต่อทางด้านของตัวอื่นๆ ที่ไม่ใช่นิติวิทยาศาสตร์ อย่างเชิงพาณิชย์ อาจจะต้องหา key partner ที่สำคัญ อาจจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะทำให้เราเข้าถึงโรงเรียนหรือสถานศึกษาได้ง่ายขึ้น ที่จะช่วยผลิตและกระจายสินค้าของเรา ตัวของคาร์บอนดอทนำไปต่อยอดทางอื่น เช่นทางการแพทย์ สิ่งแวดล้อม เช่น ช่วยพืชในการสังเคราะห์แสง ผลงานสิ่งประดิษฐ์นี้ คว้ารางวัลจากหลายเวทีทั้งในและต่างประเทศ แต่อาจารย์ผู้สอนยืนยันว่า เป้าหมายสูงสุดของการเรียน คือการสร้างนวัตกร และนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ๆ เพื่อพัฒนาประเทศไทย และให้เด็กๆ ได้ค้นหาและทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ต่อยอดสู่นวัตกรรมในอนาคตด้วย ขุนทอง คล้ายทอง ครูวิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ รร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี เผยว่า เราไม่ได้มองว่าทุกโครงงานต้องได้รางวัล แต่เพียงสุดท้ายแล้ว เด็กจะหาคำตอบในสิ่งที่เขาสงสัย หรือปัญหาวิจัยของเขาได้ ส่วนการได้รางวัลเป็นส่วนที่เสริมให้กับนักเรียนที่มีความพยายามและมีเป้าหมายที่ชัดเจนที่จะนำไปสู่จุดนั้น แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราอยากได้คือ เราอยากให้เด็กทุกคนได้องค์ความรู้ และได้กระบวนการจากการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ไปปรับใช้ในระดับอุดมศึกษาหรือการใช้ชีวิตของเขาต่อไปในอนาคต เกือบ 40 ปีที่ผ่านมา โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี สนับสนุนให้เด็กๆ เริ่มต้นจากสิ่งที่ตัวเองสนใจ และเรียนได้ทุกที่ ไม่เฉพาะในห้องเรียน ด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้การศึกษามีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดรับกับตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของกระทรวงศึกษาธิการ เพชรเก้า กาญจนะวรรธนะ นักเรียน รร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี เผยว่า การเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา anytime anywhere เพราะผมเชื่อว่า เด็กหลายๆ คน จะมีศักยภาพในหลายด้านไม่ใช่ด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว ซึ่งถ้าเราสามารถจัดสรรเวลาในการเรียนรู้ของเราเอง ไปเรียนรู้ด้านเอง เช่น ด้านการแสดง วัฒนธรรม กีฬา ทำให้มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ที่เพิ่มมากขึ้นและเพิ่มโอกาสของเด็กคนนั้นด้วย สมร ปาโท ผู้อำนวยการ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี เผยว่า ผมเชื่อว่า ถ้านักเรียนได้เรียนรู้ในสิ่งที่เขาชอบเขาถนัดและลงมือปฏิบัติจะมีความสุข ซึ่งแม้กระทั่งนักเรียนที่เราส่งไปแข่งขันต่างๆ นักเรียนจะค้นหาตัวเอง สนใจในสิ่งที่เขามีความถนัดความเข้าใจและพัฒนาต่อยอดหลังเลิกเรียน ในเวลาเรียนปกติเขาก็ต้องเรียนเหมือนโรงเรียนทั่วๆ ไปอยู่แล้ว แต่หลังเลิกเรียนเขาจะมีเวลาพัฒนาต่อยอดตรงนี้ ทำให้นักเรียนเกิดความสุขในการที่จะอยู่ประจำและเรียนรู้พัฒนาต่อยอดและสามารถนำไปใช้ในอนาคตได้ ในแต่ละปี นักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี จะส่งโครงงานวิทยาศาสตร์ที่หลากหลาย และคว้ารางวัลได้มากกว่า 150 ชิ้น ห้องจัดแสดงรางวัล ที่โรงเรียนมีถึง 2 ห้อง จึงเปิดกว้างให้นักเรียนได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ที่เกิดจากความสนใจของนักเรียนและการสนับสนุนที่ดีจากโรงเรียน อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/krobkruakao3/376018 ------------------------- รายการขันข่าวเช้าตรู่ เสาร์ - อาทิตย์ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ออกอากาศ ทุกเสาร์ - อาทิตย์ ทางช่อง 33 HD เวลา 05.55 - 06.50 น. #ขันข่าวเช้าตรู่เสาร์อาทิตย์ (KanKao Weekend) ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่ ch3plus : https://ch3plus.com facebook : https://www.facebook.com/3Plusnews Twitter : https://twitter.com/3Plusnews YouTube : https://www.youtube.com/c/3PlusNews Tiktok : https://www.tiktok.com/3plusnews