อดีตตำรวจ ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู โดยใช้ปืนและมีด ทำร้ายเด็กเล็กและครู ขับรถไล่ชนชาวบ้าน ก่อนจะลงจากรถ ทั้งยิงและฟันซ้ำ หลังก่อเหตุ จบชีวิตสลดพร้อมภรรยาและลูก โดยเหตุการณ์สลดนี้ มีผู้เสียชีวิต 38 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กเล็กจำนวน 22 ราย เวลาประมาณ 12.30 น. ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรรค์ ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจ ผบ.หมู่ป้องกันและปราบปราม สภ.นาวัง (ทราบภายหลังว่า ถูกไล่ออกจากราชการ เนื่องจากถูกจับกุมคดียาเสพติด) ได้บุกเข้าไปภายในศูนย์ฯ ทำร้ายเด็กเล็กและครู เสียชีวิตจำนวนมาก โดยเลือกเวลาลงมือก่อเหตุ ช่วงที่เด็กเล็กกำลังนอนหลับ หลังอาหารมื้อกลางวัน โดยใช้มีดพร้าฟันเด็กและครู เป็นรายคน ที่เกิดเหตุ เป็นอาคารชั้นเดียว ภายในจะแบ่งเป็นห้องๆ ทั้งห้องเรียน ห้องเสริมทักษะ โดยเจ้าหน้าที่พบศพเด็กเล็กและครู เสียชีวิตกระจายอยู่ทั้งหมด 3 ห้อง รวม 24 ราย แยกเป็น... เด็กเล็ก 22 ราย อายุระหว่าง 2-4 ขวบ (เด็กชาย 19 คน - เด็กหญิง 3 คน) ครูผู้หญิง 2 ราย สภาพศพถูกมีดพร้าฟันเข้าที่ศีรษะและใบหน้า ศพบางรายมีบาดแผลเป็นรอยมีดลักษณะฟันเข้ากลางหน้าผากเป็นแนวขวาง แต่ละห้องพบศพ ดังนี้ ห้องที่ 1 พบศพ 12 ราย ในจำนวนนี้ มีครูผู้หญิง 1 ราย ห้องที่ 2 พบศพ 6 ราย ในจำนวนนี้ มีครูผู้หญิง 1 ราย ห้องที่ 3 พบศพ 6 ราย นอกจากนี้ ก่อนที่อดีตตำรวจจะก่อเหตุทำร้ายเด็กเล็กและครู ได้ใช้ปืนยิงพนักงาน อบต. และลูกชาย เสียชีวิต อีก 2 ราย ที่บริเวณทางเข้าศูนย์ฯ หลังก่อเหตุ อดีตตำรวจได้ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว ไล่ชนชาวบ้าน บางจุดลงมายิงซ้ำ บางจุดใช้มีดพร้าฟัน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ซึ่งระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่พยายามสกัดจับ และประกาศตามล่าตัวอดีตตำรวจ จนมาพบอดีตตำรวจขับรถกรบะวีโก้กลับบ้าน และก่อเหตุเผารถทิ้ง จากนั้นก็ก่อเหตุจ่อยิงภรรยาและลูกเสียชีวิต ก่อนจะยิงตัวตายตามโดยยิงเข้าที่ปลายคาง ซึ่งระยะทางจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจนถึงบ้าน ประมาณ 3 กิโลเมตร สรุปจากเหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิต 38 คน แบ่งเป็น... เด็กเล็ก 22 ราย ครู 2 ราย (ครูหนึ่งราย กำลังตังครรภ์ได้ 8 เดือน) พนักงาน อบต. 2 ราย ลูกพนักงาน อบต. 1 ราย ชาวบ้าน 8 ราย อดีตตำรวจ - ภรรยา - ลูก รวม 3 ราย มีผู้บาดเจ็บอีก 12 คน ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู โรงพยาบาลนากลาง และโรงพยาบาลอุดรธานี ------------- น.ส.สุภาพร ครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ครูที่เห็นเหตุการณ์คนแรก เล่าเหตุการณ์ว่า ตอนผู้ก่อเหตุขับรถมา นึกว่าเป็นผู้ปกครองมารับเด็ก เพราะว่าลูกเขาเรียนอยู่ที่นี่ พอเขาลงมาก็ยิงคนที่กินข้าวอยู่ และเดินเข้าไปในศูนย์ฯ หนูก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ก็เลยยกมือไหว้ เห็นว่าเขาถือปืนอยู่ แต่พอมาถึงตัวเอง ลูกปืนหมด ตนเองจึงวิ่งเข้าไปในศูนย์ และบอกให้เพื่อนให้ปิดประตู ก่อนที่ตัวเองจะวิ่งออกไปทางด้านหลัง ซึ่งเด็กอายุประมาณ 2-4 ขวบ นอนอยู่ เบื้องต้นรู้ว่า เด็กเสียชีวิต 20 กว่าคน และมีครู 2 คน หนึ่งในนั้นมีคนท้อง 1 คน ที่ใกล้จะคลอดในเดือนหน้านี้ ------------- ครูสาธิตา ครูพี่เลี้ยง เล่าเหตุการณ์ว่า ตอนเกิดเหตุ ตนอยู่ในห้องทำงาน ก่อนจะได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก ตอนแรกคิดว่าใครมาจุดประทัด เมื่อออกมาดู จึงได้เห็นว่าคนร้ายใช้ปืนยิงครูที่อยู่ด้านนอก ล้มลงกองอยู่กับพื้น ตอนนั้นรู้ทันที่ว่าเป็นปืน เพราะผู้ก่อเหตุได้เอาปืนที่เหน็บที่กางเกงออกมาบรรจุลูกกระสุน ซึ่งปืนที่ก่อเหตุนั้นเป็นปื้นสั้น จากนั้น ผู้ก่อเหตุเห็นตนพอดี จึงได้เล็งปืนมาที่ตนอย่างเร็ว จากนั้นครูที่เห็น รีบไปล็อกประตูในศูนย์ฯแต่คนร้ายใช้ปืนยิงประตูก่อน แล้วถีบกระจกจนแตก แล้วก็บุกเข้าไปในศูนย์ฯทันที ตนและเพื่อนครูจึงรีบโทร.เรียกให้คนมาช่วย และปีนกำแพงหนี ซึ่งขณะนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในศูนย์เด็กเล็กนานมาก แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้าย พอตนเองกลับมาจากการตามคนมาช่วย ก็เห็นกับตาว่า อดีตตำรวจรายนี้เอามีดพกที่ติดตัวมา กระหน่ำฟันไปที่หัวเด็กและคุณครูที่ท้องใกล้คลอดด้วยจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุเกือบทั้งหมด ------------- มีรายงานว่า เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น เพราะมีเจ้าหน้าที่ (น่าจะเป็นครูที่ศูนย์ฯ) ได้อุ้มน้องแอ๋ม เด็กหญิงในศูนย์ฯที่รอดชีวิตเพียง 1 เดียวออกมา โดยสาเหตุที่ทำให้เด็กน้อยรายนี้รอด เพราะน้องนอนหลับสนิท จนไม่ได้ยิงเสียงปืน ประกอบกับน้องได้เอาผ้ามาห่มคลุมโปง ทำให้ผู้ก่อเหตุคิดว่ายิงโดนเด็กเสียชีวิตแล้ว ทำให้เด็กรอดปาฏิหาริย์ ------------- คุณระริน กุณภัสสร ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า เกิดเหตุรถกระบะวีโก้ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับรถมาด้วยความเร็ว ก่อนชนรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน 1 คัน จนเสียหลักพุ่งล้มลงข้างทาง ต่อมาทราบชื่อคือนางเรียมและลูกสาว เสียชีวิต 1 ราย เจ็บ 1 ราย คุณระริน ได้ให้ข้อมูลว่าตอนเกิดเหตุ 12.50 น. ตนได้ขับรถมาบริเวณจุดเกิดเหตุ ใกล้กับโรงเรียนบ้านหนองด่าน ตรงร้านต้นไม้ จู่ๆ ก็มีรถคันก่อเหตุ ขับรถมาอย่างเร็ว ก่อนพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของ สองแม่ลูกจนล้ม ขณะที่ตนเองโชคดีที่หักรถมาฝั่งตรงกันข้ามได้ ซึ่งไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่ก็อยู่ในอาการตื่นตระหนก อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/crime/morning/314264 ------------------------- #เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News) วันที่ 7 ตุลาคม 2565 ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่ ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/morning facebook : https://www.facebook.com/MorningNewsTV3 Twitter : https://twitter.com/MorningNewsTV3 YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3 #3PlusNews #Ch3Plus #ข่าวช่อง3